Skip to main content

ทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง จุดเริ่มต้นเตรียมการกินรวบระยะยาว

หลังการเปิดเผยผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มูลค่ากว่า 86,000 ล้านบาทก่อนสิ้นปี 2552 ทำให้รัฐมนตรี 2 คนลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ตามทีมที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ เมื่อปรากฏข่าวการเปิดโปงการทุจริตโดยชมรมแพทย์ชนบทผ่านสื่อมวลชนตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 เป็นต้นมา กล่าวกันว่าเป็นการเตรียมการทุจริตที่ไม่ได้ใยดีต่อประวัติศาสตร์และบทเรียนจาก ‘การทุจริตจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ งบฯ 1,400 ล้านบาท’ เมื่อปี 2541 ที่ชมรมแพทย์ชนบท เภสัชชนบท และเครือข่ายต่อต้านการทุจริตภาคประชาชนออกมาเคลื่อนไหว มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอ

เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งกระทรวงสาธารณสุข: (จบ) ว่าด้วย 4 นักการเมือง 8 ข้าราชการ ใครเข้มแข็งกว่ากัน

จากการสอบสวนโดยคณะกรรมการชุดนพ.บรรลุ ศิริพานิช ระบุชัดแจ้งว่ามีผู้ต้องรับผิดต่อกรณีการเตรียมการทุจริตนี้  เพื่อให้ทางรัฐบาลได้ดำเนินการต่อไป ดังนี้
ก. ฝ่ายราชการการเมือง  ได้แก่
(1) นายมานิต นพอมรบดี  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งการเรื่องสิ่งก่อสร้างต่างๆ  โดยเฉพาะในจังหวัดราชบุรี  รวมทั้งเครื่องพ่นฆ่ายุง  และรถพยาบาล

เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (5)เหตุเกิดที่กรมการแพทย์

กรมการแพทย์เป็นอีกหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณมากรองจากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  โดยเป็นสิ่งก่อสร้าง 4,884,912,900 บาท ครุภัณฑ์การแพทย์ 2,646,780,000 บาท รวมทั้งสิ้น 7,531,692,900 บาท  ซึ่งมีลักษณะการเอื้อการทุจริตในลักษณะเดียวกับสำนักปลัดกระทรวง

ในส่วนของสิ่งก่อสร้าง  พบว่าอาคารลักษณะคล้ายคลึงกันในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีราคาต่อตารางเมตรอยู่ระหว่าง 14,000 – 24,000 บาท แต่ราคาอาคารอื่นของกรมการแพทย์ที่กำหนดไว้ค่อนข้างแพง  โดยเฉพาะที่มีราคาเกินกว่า  24,000  บาท/ตารางเมตร  ซึ่งต้องสงสัยว่า เป็นการจงใจกำหนดราคากลางที่สูงเกินจริง ...

เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (4)การเมืองล้วงลูกก่อสร้าง อ้าง ‘น้ำขึ้นให้รีบตัก’

การเตรียมการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข นอกจากความพยายามทุจริตจัดซื้อเครื่องมือแพทย์หลายรายการในวงเงินงบประมาณมหาศาล การลงทุนในสิ่งก่อสร้างต่างๆ ด้วยวงเงินมากถึง 31,566 ล้านบาท ที่ไม่ส่งเสริมความเข้มแข็งของประเทศในอนาคต  เนื่องจากขาดยุทธศาสตร์  และการจัดลำดับความสำคัญที่ชัดเจน  งบประมาณยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ  และเมืองใหญ่  มากกว่าที่จะกระจายออกไปในระดับทุติยภูมิและปฐมภูมิที่ขาดแคลนมากกว่า  จึงไม่ส่งเสริมให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซ้ำร้ายยังมี ‘นักการเมือง’ เข้ามาล้วงลูก และยุยงข้าราชการให้พัวพันไปด้วยว่า “น้ำขึ้นให้รีบต

เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (3)โกงครุภัณฑ์สูญงบเข้ากระเป๋า 720 ล้านบาท

ด้วยกลเม็ดการเตรียมการทุจริต ทั้งการฮั้ว การล็อคสเปค การเพิ่มราคางบประมาณที่จัดสรรต่อหน่วยครุภัณฑ์  การจัดสรรให้โดยเกินความจำเป็น การจัดสรรให้โดยไม่ได้ต้องการไม่ได้ร้องขอ การดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง ไม่คุ้มค่า ไม่เหมาะสมและไม่สุจริต  เปิดช่องทางให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ในลักษณะต่างๆ  เหล่านี้  เปิดทางแก่การทุจริตคอรัปชั่น ทางคณะกรรมการชุดนพ.บรรลุ ศิริพานิช ได้ประมาณมูลค่าความเสียหายจากการทุจริตงบประมาณแผ่นดินโดยประมาณ เฉพาะส่วนของครุภัณฑ์ รวมมูลค่างบประมาณที่สูงเกินสมควร (719.98) ล้านบาท และควรป้องกันการสูญเสียในอนาคตได้อีก 645–1,308  ล้านบาท ดังนี้

เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (2)กินรถพยาบาล 800 คัน จะได้ 80 ล้าน ลูกศรชี้ที่ฝ่ายการเมือง

ข่าวการฮั้วรถพยาบาลในงบไทยเข้มแข็งจำนวน 800 คันที่มีการจัดสรรให้กับโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งๆ ละ 1 คันนั้น  ได้เริ่มปรากฏต่อสาธารณะตั้งแต่วันพุธที่ 30 กันยายน 2552 หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้พาดหัวข่าวประมาณว่า “แพทย์ชนบทปูดทุจริตรถพยาบาลมีข้อมูลว่ามีฝ่ายการเมืองไปเจรจากับบริษัทเอกชนที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2552 ถึงขั้นเสนอราคาให้คันละ 100,000 บาท ทำให้ราคาจัดซื้อรถพยาบาล 1 คันที่มีอุปกรณ์การแพทย์สำคัญ 2 รายการอย่างใดอย่างหนึ่ง  คือ เครื่องช่วยหายใจและเครื่องกระตุกหัวใจที่เคยซื้อได้ 1.7  ล้านบาท เพิ่มเป็น  1.8  ล้านบาท”

เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (1)ใครคือไอ้โม่งทุจริต UV fan?


หมายเหตุ: 'เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข' เป็นรายงานขนาดยาว ที่ฝ่ายวิชาการ ชมรมแพทย์ชนบท เตรยมตีพิมพ์ในวารสารโรงพยาบาชุมชน โดยรวบรวมและประมวลข้อเท็จจริงจากฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะรายงานการสอบสวนของคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 227/2552 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2552 (ที่มีนพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน)และมีการแถลงต่อสาธารณะไปแล้ว มาประมวลใหม่อีกครั้ง เพื่อให้เห้นถึงกลไกในกระบวนการเตรียมทุจริตงบไทยเข้มแข็งก้อนโต

เผยรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงทุจริตไทยเข้มแข็งกระทรวงสาธารณสุขโดยละเอียด

หลังการเปิดโปงอย่างต่อเนื่องของชมรมแพทย์ชนบท  โดยเฉพาะนพ.เกรียงศักดิ์  วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมแพ ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2552 เป็นต้นมาต่อกรณีงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 86,685.61 ล้านบาท  ทำให้ความร้อนของการตรวจสอบจากสาธารณะนั้นเพิ่มอุณหภูมิไปทั้งกระทรวงและรัฐบาล กดดันให้นายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่งตั้ง นพ.บรรลุ ศิริพานิช อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข  เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง