Skip to main content
ธนก บังผล
ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

 สมุดจดข่าวเล่มเล็กๆสีขาวเล่มนั้น มีตัวอักษรที่อ่านไม่ออกอยู่หลายตัว คำบางคำที่จดอย่างเร่งรีบ กลายเป็นเส้นสายที่ไร้ระเบียบ มีเพียงไม่กี่แผ่นเท่านั้นที่ถูกเจ้าของสมุดบันทึกไว้อย่างบรรจง และเมื่อพลิกอ่านถึงหน้านั้นเมื่อไร ความทรงจำในวันนั้นก็ค่อยๆผุดกระจ่างชัดทุกความทรงจำ

น้ำเสียงและรอยยิ้มของนักศึกษาฝึกงาน "ศูนย์ข่าวอิศรา" ที่มาจากคณะวิทยาการการสื่อสารและสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) จำนวน 9คน มี 7 คนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และอีก 2 คนเป็นว่าที่บัณฑิตรุ่นแรกของคณะ ความน่ารักสดใสทำให้การรวมน้องๆเหล่านี้มาสะท้อนความรู้สึกที่มีต่อศูนย์ข่าวอิศรา ยากยิ่งกว่าจับปูใส่กระด้ง

ไอดา บรอเฮง (ดา) สาวน้อยจาก อ.แว้ง กับ แวเซ๊าะ รอมือลี (เซ๊าะ) ต.ยะกัง อ.เมือง 2สาวจากนราธิวาส และ ช่อผกา บัวแก้ว (นิค) สาวระนอง คือ 3 สาวมุสลิมที่ศูนย์ข่าวอิศราภูมิใจนำเสนอ วิกันดา ขันธ์แก้ว (เบียร์) ทัศนาวดี แก้วสนิท (มิ้ว) เหมือนแพร ศรีสุวรรณ (ทราย) 3 สาวจากสงขลา ธัญลักษณ์ ภักดีวานิช (เก๋) สาวน้อยเมืองพัทลุง น้องๆทั้ง 7 คนนี้ เป็นนักศึกษาปี 3 ที่มาฝึกงานอยู่ศูนย์ข่าวประมาณ 15 วัน

ส่วนปี 4 ที่ฝึกงานเป็นจริงจังเพื่อเอาเกรดต้องใช้เวลากว่า 2 เดือน มี 2 คน อมรรัตน์ ชนะการณ์ (ผึ้ง) บ้านอยู่นครศรีธรรมราช และ จรรยา พละมาตย์ (แขก)เด็กเชียงรายสาวเหนือ หนึ่งเดียวที่นับถือศาสนาคริสต์ในศูนย์ข่าว ใครคนหนึ่งในศูนย์ข่าวอิศรา ยืดอกบนโต๊ะประชุมประกาศเสียงดังว่านับเป็นความสมานฉันท์ทั้ง 3 ศาสนาโดยแท้

ตัวอักษรสีแดงบนกระดาษจดข่าวสีขาวเน้นย้ำคำพูดของน้องๆกลุ่มนี้ในวันหนึ่งว่า ศูนย์ข่าวอิศราเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดความจริงให้กับคนอื่นๆที่อยู่นอกพื้นที่ โดยมีความคาดหวังกับศูนย์ข่าวแห่งนี้ว่าจะมีการนำเสนอข่าวที่เป็นจริงมากกว่าการนำเสนอข่าวรายวันตามกระแส เป็นทางเลือกใหม่ของคนรับสารและประชาชน เพราะไม่ได้นำเสนอแค่ข่าวฆ่ากันตายรายวัน วางระเบิดที่ไหน แต่มาตั้งเพื่อสะท้อนมุมมองอีกแง่มุมหนึ่งซึ่งคนทั้งประเทศไม่ได้มารู้มาเห็นเหมือนคนในพื้นที่ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคนในพื้นที่ ทำให้คนในชุมชนมีความสนิทสนมมากกว่าสื่อกระแสหลักอื่นๆ

"เก๋" สาวน้อยเมืองพัทลุงให้ความเห็นว่า "ศูนย์ข่าวอิศรานำเสนอในส่วนที่ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนไม่เคยได้นำเสนอ นักข่าวสามารถเข้าไปถึงข้อมูลนั้นจริงๆ ได้สัมผัสกับที่เกิดเหตุการณ์อย่างแท้จริงมากกว่านักข่าวทั่วๆไป"


ส่วนความหวังที่จะให้พี่ๆนักข่าวจากส่วนกลางช่วยแนะนำสั่งสอนนั้น น้องๆทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การคิดประเด็นนำเสนอข่าวเป็นสิ่งที่ต้องการเรียนรู้จากพี่ๆนักข่าวมืออาชีพมากที่สุด แม้ว่าการเขียนข่าวให้ออกมาน่าสนใจนั้นจะเป็นเรื่องที่ทุกคนหนักใจ

เมื่อถามถึง "ความกลัว" ต่อสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ สาวๆบอกว่าเคยชินต่อเหตุการณ์ความรุนแรงแล้ว แรกๆทุกคนกลัวแต่เมื่อรู้ว่าควรจะอยู่ที่ไหน ดูแลตัวเองอย่างไร หลีกเลี่ยงที่จะไม่ไปอยู่ในที่อันตราย การปรับตัวให้อยู่กับความรุนแรงให้ได้นั้นสำคัญกว่าการใช้เวลาให้หมดไปวันๆกับความกลัว

"เซ๊าะ" สาวน้อยจากนราธิวาส มุสลิมมะห์ที่น่ารักที่สุดในโลก บอกว่า "รู้สึกไม่กลัวเลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่บางครั้งก็รู้สึกหวั่นไหวเหมือนกัน ว่าทำไมต้องเกิดเหตุการณ์รุนแรงรายวันเกือบทุกวัน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ แต่ว่าการมาเรียนที่ตรงนี้เรามาเรียนในหนทางของอัลลอฮ์ไม่ใช่มาทำอะไรที่เสียหาย ปลอบใจตัวเองอยู่ตลอดเวลา เรามาทางที่ดีเราก็ไม่รู้สึกกลัวมีกำลังใจมากขึ้นที่จะเรียนต่อไป"

ในขณะที่ทุกคนบอกว่าไม่กลัวนั้น "แขก" พี่ปี 4 พูดกับน้องๆอย่างเป็นห่วงว่า "เราพูดเต็มปากว่าไม่กลัวไม่ได้ จะบอกว่าเราเป็นนารีกำยำมันไม่ใช่แล้ว มันรุนแรงขึ้นทุกวันๆ และไม่รู้ว่าเมื่อไรจะจบ"


หากวันหนึ่งศูนย์ข่าวอิศราจะต้องยุบไป น้องฝึกงานทุกคนแสดงความคิดเห็นว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย สื่อที่จะสะท้อนมุมมองของชาวบ้าน การอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนาคงหมดไป


"ผึ้ง"บอกว่า "เสียดายไม่อยากให้ยุบ ศูนย์ข่าวช่วยให้กระแสข่าวที่เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ดีขึ้นจากที่กระแสหลักเคยนำเสนอแต่ความรุนแรงเพียงด้านเดียวและมุ่งทำให้สถานการณ์ดูเลวร้ายลง พอมีศูนย์ข่าวอิศราขึ้นมาทำให้ช่วยกลั่นกรองข่าวสารให้มุมมองข่าวสารใหม่ๆแก่คนนอกพื้นที่ให้มองคนในพื้นที่ต่างๆในแง่มุมที่ดีมากขึ้น ถ้ายุบไปก็คิดว่าต่อไปคงจะมีแต่การนำเสนอของสื่อกระแสหลักเพียงด้านเดียวเหมือนเดิมไม่หลากหลาย ที่สร้างความเข้าใจให้แก่คนนอกและในพื้นที่"

ในขณะที่ "ทราย" บอกว่า คนที่นี่ได้อะไรหลายๆอย่างจากศูนย์ข่าวในขณะที่นักข่าวที่ลงมาก็ได้อะไรหลายๆอย่างเช่นกัน ต่างคนต่างเรียนรู้กันและกันถ้าขาดหายไปก็ขาดความสมดุลของข่าว


"โต๊ะข่าวนี้เป็นตัวกลางของประชาชนที่สามารถสื่อให้กับสังคมไทยได้รับรู้ ยุบไปแล้วประชาชนจะอยู่ได้อย่างไร" เซ๊าะสาวน้อยที่น่ารักที่สุดในโลกให้ความเห็น


กระดาษแผ่นสุดท้ายถูกอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ใบหน้าจะยิ้มกว้างจนรู้สึกเหมือนเป็นคนบ้า แต่น้ำตากลับค่อยๆซึมจนคลอเต็มสองตา น้องๆ ฝึกงานจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าพวกเธอคือส่วนสำคัญที่เติมเต็มให้ศูนย์ข่าวอิศราสะกดคำว่า "ประสบความสำเร็จ" ได้อย่างภาคภูมิ