Skip to main content

แถลงการณ์คัดค้านการปิดช่องทางการสื่อสารเสรี

เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนถูกกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศปิดกั้น แต่ไม่ใช่เว็บไซต์แห่งแรกที่ถูกอำนาจรัฐประหารปิดกั้น หรือพยายามเข้าไปปั่นป่วน ปฏิกิริยาของ ม.เที่ยงคืนต่อการรัฐประหารก็คือ แม้ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างมักง่ายเช่นนี้ แต่ก็เห็นว่าสายเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้ นอกจากช่วยกันผลักดันให้ประเทศกลับสู่เส้นทางพัฒนาประชาธิปไตยโดยเร็ว

คณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระมุข (คปค.)อ้างว่าการรัฐประหารครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง ซึ่งส่วนหนึ่งประกอบด้วยการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่กระบวนการทั้งร่างรัฐธรรมนูญใหม่และปฏิรูปการเมือง ตามที่ปรากฏในธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว กลับเป็นกระบวนการที่ไม่เปิดให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพอย่างบริบูรณ์ อันเป็นเงื่อนไขสำคัญของการปฏิรูปการเมืองที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ใช่เพียงการถูกเลือกสรรเข้าไปนั่งในองค์กรร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ต้องหมายถึงโอกาสของการรับรู้และส่งผ่านความคิดเห็นกันอย่างอิสระเสรีด้วย ฉะนั้นบรรยากาศที่มีคณะทหารในนามของ คปค.คอยกำกับควบคุมอยู่เช่นนี้ จึงทำให้การปฏิรูปการเมืองที่แท้จริงเกิดขึ้นไม่ได้

.เที่ยงคืนจึงแถลงข่าวคัดค้านแนวทางการปฏิรูปการเมือง ตามที่ระบุไว้ในธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว และเสนอแนวทางอื่นซึ่งจะเปิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนกลับคืนมาให้สมบูรณ์ อันเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการปฏิรูปการเมืองและการร่างรัฐธรรมนูญ ม.เที่ยงคืนอาศัยการกระทำเชิงสัญลักษณ์คือการฉีกธรรมนูญชั่วคราวดังกล่าว และทั้งหมดนี้ได้รายงานไว้ในเว็บไซต์ของ ม.เที่ยงคืน

ในวันที่ 29 กันยายน 2549 กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศได้ปิดกั้นเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนทันที การกระทำนี้ ม.เที่ยงคืนสามารถสื่อกับสังคมได้ใหม่ไม่ยากด้วยการแก้ปัญหาทางเทคนิค แท้จริงแล้ว เราได้รับข้อเสนอจากผู้ให้บริการในต่างประเทศหลายราย ให้ ม.เที่ยงคืนใช้พื้นที่ของเขาได้โดยเสรี แต่ ม.เที่ยงคืนเห็นว่า ประเด็นปัญหาไม่ได้อยู่ที่พื้นที่สาธารณะมีหรือไม่มีในทางเทคโนโลยี แต่อยู่ที่ว่าพื้นที่สาธารณะถูกอำนาจรัฐประหารที่อ้างว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมืองปิดกั้น ฉะนั้นจึงจำเป็นที่พวกเราในประเทศที่จะต้องร่วมกันต่อสู้กับอำนาจที่ขาดความชอบธรรมนี้ร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะหลบไปหาพื้นที่ใหม่

ดังที่ ม.เที่ยงคืนได้แถลงข่าวเตือนไว้แล้วว่า การปฏิรูปการเมืองในบรรยากาศที่ขาดสิทธิเสรีภาพของประชาชนนั้น จะไม่เกิดผลเป็นจริงได้ การเที่ยวปิดเว็บไซต์ของฝ่ายที่มีความเห็นไม่สอดคล้องกับกลุ่มอำนาจรัฐประหาร สะท้อนให้เห็นมาแต่ต้นว่า อำนาจนี้จะไม่อาจนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองที่เปิดโอกาสอันเท่าเทียมแก่คนทุกกลุ่มในสังคม หากอำนาจนี้จะสิ้นสุดลงโดยสันติในสังคมไทย จำเป็นที่สังคมไทยต้องไม่ยอมจำนน แต่ควรร่วมมือกันในการกดดันให้อำนาจนี้ ยุติการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในทันที

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

30 กันยายน 2549

ท่านผู้อ่านสามารถร่วมลงชื่อคัดค้านการปิดเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้ โดยส่งอีเมลไปที่ [email protected]

อย่างไรก็ดี ประชาไท (สำนักข่าวทางเลือกที่ใกล้จะโดนปิดไม่ปิดแหล่) ได้รายงานรายละเอียดของการปิดเว็บไซต์มหายวิทยาลัยเที่ยงคืนไว้ดังนี้ ..

ห้ามเข้า ม.เที่ยงคืนแล้ว หลังท้าทายอำนาจฉีกร่างธรรมนูญ คปค.

เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน www.midnightuniv.org ถูกมือดีบล็อคแล้ว ตั้งแต่เวลา 20.00 น. เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของ ‘ประชาไท’ พบว่ามีการปิดกั้นการเข้าเว็บ ม.เที่ยงคืนจริง โดยผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของทรู ทีโอที ทีทีแอนด์ที และ ฯลฯ จะไม่สามารถเข้าเว็บไซต์นี้ได้ มีเพียงผู้ใช้ของผู้ให้บริการบางแห่งและในต่างประเทศเท่านั้นที่ยังเข้าไปอ่านและแสดงความคิดเห็นได้ตามปกติ

ขณะที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า จากการหาสาเหตุโดยการตรวจเส้นทางการเดินทางของอินเตอร์เน็ตระหว่างจุดต่อจุด (Trace Route) พบว่า ปัญหาขั้นที่ทำให้เข้าเวบไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนไมได้ ติดขัดที่ขั้นของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ค (ISP) เช่น TRUE อันเป็นสาเหตุเดียวกันกับที่เคยปิดกั้นเวบไซต์ 19sep.net

ด้านสมเกียรติ ตั้งนโม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ในฐานะผู้ดูแลเว็บให้สัมภาษณ์กับ ‘ประชาไท’ ว่า การปิดกั้นการเข้าถึงเว็บครั้งนี้ น่าจะเกิดจากสาเหตุที่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ได้แถลงข่าวและประกาศฉีกร่างธรรมนูญการปกครองของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ที่นำโดย ศ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ที่รุนแรงมาก ทั้ง คปค. หรือหน่วยงานรัฐยังไม่สามารถดำเนินการทางกฎหมายใดๆ กับ ม.เที่ยงคืนได้ เนื่องจากยังคงเป็นร่างกฎหมายที่ยังมิได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ และทรงลงพระปรมาภิไธยเพื่อประกาศใช้

“เราประเมินกันว่า นี่เป็นการเคลื่อนไหวทางสัญลักษณ์ที่รุนแรงมาก และอาจจะทำให้ไม่พอใจ จนเป็นเหตุใช้อำนาจแทรกแซงให้ปิดหรือป่วนเว็บ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทุกครั้งที่ชนชั้นปกครองรบกัน ประชาชนจะเป็นผู้เดือดร้อนเสมอ และสิทธิเสรีภาพก็ถูกยึดไป เหมือนกับที่ประชาธิปไตยถูกยึดไป ทั้งที่การอ่านบทความวิชาการ การแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิตามธรรมชาติของมนุษย์ การกระทำครั้งนี้ถือเป็นการคุกคามทางวิชาการ เป็นการคุกคามเสรีภาพของสื่อ และเป็นการคุกคามพื้นที่สาธารณะที่สำคัญ เป็นการทำให้พื้นที่สาธารณะสาบสูญไปจากสังคม ซึ่งไม่อาจยินยอมได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น และพฤติการณ์ที่ปรากฏชัดนี้ แสดงให้เราเห็นแล้ว เราจะสนับสนุนการกระทำรัฐประหารต่อไปไม่ได้”

อธิการบดี ม.เที่ยงคืน เปิดเผยด้วยว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีสัญญาณผิดปกติทางเทคนิคใดๆ แม้จำนวนผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นมากมายนับตั้งแต่มีการรัฐประหารก็ตาม นอกจากนี้ ก่อนที่ เว็บ ม.เที่ยงคืนจะถูกปิด ก็ไม่มีการเตือนใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะผิดตรงไหน ผิดอย่างไร อันผิดวิสัยการกระทำของวิญญูชน

ทั้งนี้ ม.เที่ยงคืน เป็นเว็บที่รวบรวมบทความวิชาการจำนวนมาก ครอบคลุมทุกสาขา ตั้งแต่วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ จำนวนกว่า 1,500 เรื่อง หนากว่า 2 หมื่นหน้า มีกระดานข่าวที่เพิ่งเปิดใหม่เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งมีเนื้อหากว่า 1,300 หัวข้อ โดยช่วงเดือนที่ผ่านมามียอดผู้อ่านและแสดงความเห็นกว่า สองล้านห้าแสนครั้ง โดยมีอัตราผู้ใช้จากประเทศไทยเป็นสัดส่วนประมาณ 85 เปอร์เซนต์ นอกนั้นเป็นผู้ใช้จากต่างประเทศ