จากการสอบสวนโดยคณะกรรมการชุดนพ.บรรลุ ศิริพานิช ระบุชัดแจ้งว่ามีผู้ต้องรับผิดต่อกรณีการเตรียมการทุจริตนี้ เพื่อให้ทางรัฐบาลได้ดำเนินการต่อไป ดังนี้
ก. ฝ่ายราชการการเมือง ได้แก่
(1) นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งการเรื่องสิ่งก่อสร้างต่างๆ โดยเฉพาะในจังหวัดราชบุรี รวมทั้งเครื่องพ่นฆ่ายุง และรถพยาบาล
(2) นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งเรื่องการสั่งการเกี่ยวกับโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งโดยรวม และเรื่องรถพยาบาล
(3) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งไม่อาจปัดความรับผิดชอบในความผิดพลาด บกพร่อง ส่อเจตนาไม่สุจริต และการเปิดช่องทางมีการแสวงหาผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุข
(4) นพ.กฤษดา มนูญวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีส่วนพัวพันเรื่องยูวีแฟน
ข. ฝ่ายราชการประจำ ได้แก่
(1) นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่มิได้เอาใจใส่ในการบริหารราชการในโครงการนี้และมีการกระทำที่เข้าข่ายบกพร่องต่อหน้าที่อย่างมาก รวมทั้งมีพฤติการณ์ที่ส่อเจตนาไม่สุจริต เปิดช่องให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ตลอดจนมีการดำเนินงานที่ไม่สุจริตเกี่ยวกับเรื่องการส่งตัว พญ.ศิริพร ไปปฏิบัติงานที่โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ เครื่องยูวีแฟน และการจัดทำห้องแยกโรคซึ่งขัดต่อหลักวิชาการ โดยมีข้อมูลว่าอาจมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ด้วย
เนื่องจาก นพ.ปราชญ์ พ้นจากราชการเพราะเกษียณอายุไปแล้ว ควรส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตาม มาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ต่อไป
(2) พญ.ศิริพร กัญชนะ อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขซึ่งบกพร่องต่อหน้าที่ และอาจดำเนินการโดยมีผลประโยชน์ส่วนตัวแอบแฝง กรณีการขอไปปฏิบัติงานที่โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ และการสั่งการเรื่องยูวีแฟน ซึ่ง พญ.ศิริพร เกษียณอายุราชการไปแล้ว ควรส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการเช่นเดียวกับ นพ.ปราชญ์
(3) ผู้อำนวยการกองแบบแผนและเจ้าหน้าที่ในกองแบบแผน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการกำหนดราคาสิ่งก่อสร้างสูงเกินสมควรมากมาย ควรตั้งคณะกรรมการสอบสวน หากพัวพันข้าราชการที่เกษียณอายุไปแล้ว ควรส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป
(4) นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ ซึ่งต้องรับผิดชอบฐานะหัวหน้าส่วนราชการในการจัดทำคำของบประมาณทั้งสิ่งก่อสร้างและครุภัณฑ์การแพทย์ของกรมการแพทย์ในราคาแพงมาก และหลายรายการ
(5) นพ.สุชาติ เลาบริพัตร ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุด นพ.เสรี หงส์หยก ได้ชี้มูลความผิดไว้แล้ว
(6) ผู้ที่อาจเข้าข่ายบกพร่องต่อหน้าที่ โดยไม่มีหลักฐานแสดงว่ามีเจตนาไม่สุจริต ได้แก่
ก. นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค
ข. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ซึ่งมิได้ทำหน้าที่กลั่นกรองคำของบประมาณโครงการเท่าที่ควร
(7) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการยูวีแฟนทั้งหมด ทั้งข้าราชการในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและบุคลากรในองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
(8) นพ.จักรกฤษณ์ ภูมิสวัสดิ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่อง เครื่องยูวีแฟน และเรื่องการซื้อรถตู้โฟล์คสวาเกนอย่างมีเงื่อนงำ
ข้อเสนอแนะเพื่อการเดินสู่อนาคต
คณะกรรมการชุดนี้ได้ทำข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการและปฏิรูปกลไกของกระทรวงสาธารณสุขไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
(1) ควรมีการทบทวนพิจารณาโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขใหม่ทั้งหมด ทั้งสิ่งก่อสร้าง ครุภัณฑ์การแพทย์ รถพยาบาล ทั้งในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกรมอื่นๆ โดยเฉพาะกรมการแพทย์ รวมทั้งโครงการพัฒนาบุคลากร ซึ่งจะต้องได้สัดส่วนเหมาะสมกัน ทั้งนี้ ควรดำเนินการโดยมุ่งคุณภาพ เพื่อให้เกิดการสร้างความเข้มแข็งของประเทศอย่างแท้จริง มิใช่ทำให้ประเทศชาติอ่อนแอลง และสร้างปัญหาในระยะยาว
ข้อสำคัญที่ต้องทบทวน คือ จะต้องมุ่งเน้นการพัฒนาในระดับปฐมภูมิและทุติยภูมิ เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญออกจากเมืองหลวงและเมืองใหญ่ ให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งเสียเปรียบมาโดยตลอด ทั้งนี้ควรศึกษาและดำเนินการตามที่เคยเริ่มต้นมาเป็นอย่างดีแล้วในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
อนึ่ง ขณะนี้ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจได้คลี่คลายลงระดับหนึ่งแล้ว ไม่น่าจะมีความจำเป็นต้องเร่งรัดใช้งบประมาณโครงการนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนเดิม
(2) ควรมีการสอบสวนทั้งทางวินัยและทางอาญากับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ยังรับราชการและที่เกษียณอายุไปแล้ว สำหรับข้าราชการที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ให้พิจารณาส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป
(3) ควรพิจารณาดำเนินการกับนักการเมืองที่เกี่ยวข้องตาม “กฎเหล็ก 9 ข้อ” ของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2551 โดยเฉพาะในข้อ 2 ที่ “เน้นให้ยึดถือการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างเคร่งครัด” และ ข้อ 9 ที่ระบุว่า “ความรับผิดชอบทางการเมืองนั้นมีมาตรฐานที่สูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย”
(4) ควรปรับปรุงโครงสร้างการบริหารของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ ยุบกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเข้าไปสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงตามเดิม จัดให้มีหน่วยงานที่ดูแลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลศูนย์ / ทั่วไป ในระดับสำนัก ให้มีความเข้มแข็งอย่างน้อยเท่ากับกองโรงพยาบาลภูมิภาค และกองสาธารณสุขภูมิภาคในอดีต ก่อนถูกทำให้เสื่อมลงโดยการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ กพ. และ กพร.
(5) ควรรื้อปรับระบบการทำงานของกองแบบแผนเสียใหม่ ให้ทำงานอย่างมืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมุ่งประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
(6) กรมการแพทย์ควรมีหน่วยงานประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Office of Medical Technology Assessment) อย่างเป็นกิจลักษณะที่สามารถประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์โดยเฉพาะที่ใหม่ๆ และราคาแพงได้อย่างมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้ ซึ่งจะสามารถป้องกันการทุจริต และได้เครื่องมืออุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยและต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง
(7) ควรฟื้นฟูระบบคุณธรรมในระบบราชการ เพื่อส่งเสริมผู้มีความรู้ ความสามารถ และความซื่อสัตย์สุจริต ให้มีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถทำประโยชน์แก่หน่วยงานได้ ไม่ควรปล่อยให้ระบบราชการเต็มไปด้วยข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถไม่พอเพียง พึ่งพาแต่ระบบวิ่งเต้นเส้นสาย ขาดความกล้าหาญทางจริยธรรม โอนอ่อนยอมตามผู้มีอำนาจโดยไม่ยึดความถูกต้อง ชอบธรรมและประโยชน์ของราชการ อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน.
อ่านรายละเอียด 'รายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 227/2552 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2552 (ฉบับที่ 1)' ตามเอกสารแนบท้าย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (1)ใครคือไอ้โม่งทุจริต UV fan?
- เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (2)กินรถพยาบาล 800 คัน จะได้ 80 ล้าน ลูกศรชี้ที่ฝ่ายการเมือง
- เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (3)โกงครุภัณฑ์สูญงบเข้ากระเป๋า 720 ล้านบาท
- เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (4)การเมืองล้วงลูกก่อสร้าง อ้าง ‘น้ำขึ้นให้รีบตัก’
- เปิดปมงาบงบใครเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข: (5)เหตุเกิดที่กรมการแพทย์